วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ฤกษ์งามยามดี มาไขข้อสงสัยของไอ้ต้นสมุนไพร ที่มีชื่อเรียกว่า " ตำแยแมว " สำหรับเจ้าเหมียวกันดี
กว่า บางคนไปเห็นมา แล้วสงสัยว่ามันใช่ตำแยแมวที่เจ้าเหมียวโปรดปรานหรือเปล่า ก่อนอื่นเลยเรามารู้จักเจ้าตำแยแมวอย่างเป็นทางการก่อน อาจจะวิชาการนิดนึง แต่ก็รู้ไว้ใช่ว่า...

สำหรับสมุนไพรตำแยแมวมี 2 ชนิด ชนิดใบกลมเรียกว่าตำแยแมวตัวเมีย ใบแหลมเรียกตำแยแมวตัวผู้ ที่นิยมนำมาเป็นยาคือสมุนไพรตำแยแมวตัวเมีย

ชื่ออื่น ๆ : ตำแยตัวผู้,ตำแยตัวเมีย, ตำแยแมว, ตำแยป่า, หญ้าแมว, หญ้ายาแมว, หานแมว, ลังตาไก่, อเนกคุณ
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Acalypha indica Linn.
วงศ์ : EUPHORBIACEAE.
ลักษณะต้นและใบ : ตำแยแมวเป็นไม้เล็ก ๆ จำพวกต้นหญ้า ต้นสูงประมาณ 2 ฟุตเศษ ๆ ลำต้นตรง
ใบกลมโต ปลายใบแหลมเล็กน้อย มีจักเล็ก ๆ ตามริมใบโตกว่าใบพุทรานิดหน่อย
มีดอกออกตามต้น ดอกเป็นดอกช่อ ส่วนยอดของช่อดอกเป็นดอกเพศเมีย มีใบประดับหยักเป็นซี่ฟัน 
มีขนปกคลุม แต่ละใบประดับหุ้มห่อดอก 2-6 ดอก ผลแห้งแตกได้ ภายในมีเมล็ด 1 เมล็ด 
ชอบขึ้นตามที่ดินเย็น ๆ ตามที่รกร้างทั่วๆ ไป และที่มีอิฐปูนเก่า ๆ ผุ ๆ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ตำแยแมว เป็นพรรณไม้ล้มลุก ลำต้นตั้งตรง และมีขนาดเล็กเนื้อภายในอ่อน และไม่แข็งแรง ลำต้นสูง
ประมาณ 2 ฟุต เท่านั้น ใบตำแยแมว ออกใบเดี่ยว มีขนาดเล็กรูปมนรี ปลายใบเรียวเล็ก ขอบใบเป็น
จักอยู่รอบใบ มีสีเขียว และใบใหญ่กว่าใบพุทราเล็กน้อยดอกตำแยแมว จะออกดอกรอบ ๆ ลำต้น 
ลักษณะของดอกจะคล้าย ๆ กับใบอ่อนที่มีขนาดเล็ก แต่พอบานเต็มที่แล้วใบอ่อนนี้ก็ยังติดอยู่ไม่ร่วง
ผลตำแยแมว รูปกลม ขนาดเล็ก ภายในมีเมล็ดจำนวนมาก เมื่อผลแก่แตกได้ ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด 
พบขึ้นตามธรรมชาติในบริเวณที่มีพื้นดินเย็น หรือที่รกร้างข้างทาง 

ส่วนที่ใช้เป็นยา : ใบ, ต้น, ราก

ต้นตำแยแมว
ใบตำแยแมว ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดเล็ก (ใหญ่กว่าใบพุทราเล็กน้อย) ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปมนรี รูปไข่ หรือรูปกลมโต ปลายใบมนหรือแหลมเล็กน้อย โคนใบสอบ ส่วนขอบใบหยักเล็กน้อย แผ่นใบเป็นสีเขียว ด้านบนมีขนขึ้นปกคลุม
ใบตำแยแมว
ดอกตำแยแมว ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ รอบ ๆ ลำต้น ส่วนยอดของช่อดอกเป็นดอกเพศเมีย ลักษณะของดอกจะคล้ายกับใบอ่อนที่มีขนาดเล็ก แต่เมื่อบานเต็มที่แล้วใบอ่อนนี้ก็ยังคงติดอยู่และไม่ร่วง มีใบประดับหยักเป็นซี่ฟัน มีขนปกคลุม แต่ละใบประดับจะหุ้มห่อดอก 2-6 ดอก
ข้อมูลทางเภสัชวิทยาของตำแยแมวทั้งต้นสดและต้นแห้งจะมีสารจำพวก alkaloid, acalyphine, tannin, vestin, volatile oil แต่ถ้าเป็นวัตถุดิบที่ส่งมาจาทางแอฟริกาใต้ ซึ่งพบรายงานอยู่ใน Petelot reports จาก Remington & Roets  พบว่าสามารถที่จะแยกได้สาร Cyanoginitie glucoside, Quibrachitol และ Triacetonamine เป็นต้น ตำแยแมว แมวจะชอบกินราก แต่ถ้าเป็นกัญชาแมว แมวจะชอบกินใบ
     
ตำแยตัวผู้
ดอกตำแยแมว
                  Photobucket
สรรพคุณของตำแยแมว1. ต้นมีสรรพคุณทำให้อาเจียน2. ใช้เป็นยาช่วยขับเสมหะ ขับเสมหะในโรคหลอดลมอักเสบ เสมหะในโรคหอบหืด ด้วยการใช้ใบสด ๆ นำมาสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วนำไปต้มกับน้ำ 4 ถ้วยแก้ว ให้เหลือเพียง 2 ถ้วยแก้ว ใช้ดื่มครั้งละ 1 ถ้วย เช้าและเย็น3.ช่วยแก้อาการไอ4. ใช้เป็นยารักษาโรคหอบหืด ภูมิแพ้ ด้วยการถอนทั้งต้นและราก นำมาต้มกับน้ำดื่มสัก 1 แก้ว ใช้ดื่มเมื่อมีอาการ แก้วเดียวก็หาย หรือจะนำมาโขลกผสมกับน้ำซาวข้าว กรองใส่ผ้าขาวบางให้ได้น้ำข้น ๆ 1 แก้ว แล้วดื่มก็มีสรรพคุณดีเช่นกัน 5. ต้น ราก ใบ หรือทั้งต้นหากนำมารับประทานในปริมาณมากจะทำให้คลื่นเหียนอาเจียน และทำให้ระคายเคืองทางเดินอาหาร6. ลำต้นที่อ่อน ๆ ใช้เป็นยาล้างเมือกในท้องหรือทำความสะอาดทางเดินอาหาร ด้วยการนำต้นสดทั้งต้นมาคั้นเอาแต่น้ำ ซึ่งน้ำที่ได้นี้จะใช้เป็น purgative7. ต้น ราก และใบมีสรรพคุณเป็นยาถ่าย ยาระบาย8. ใบใช้เป็นยาขับพยาธิ ขับพยาธิเส้นด้าย ด้วยการนำใบสดมาทำเป็นอาหาร โดยเฉพาะสำหรับเด็ก ๆ หรือนำมาต้มกิน หรือจะใช้ใบสดนำมาคั้นเอาน้ำผสมกับกระเทียมก็ได้9. ต้นหรือใบนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาถอนพิษเมาเบื่อในทางเดินอาหาร10.ใบใช้เป็นยารักษาโรคผิวหนัง ด้วยการใช้ใบสดนำมาตำผสมกับเกลือแกง ใช้ทาบริเวณที่เป็น11.ใบแห้งนำมาป่นให้ละเอียดใช้โรยรักษาแผลเนื่องจากนอนมาก12.ใบใช้เป็นยาทาแก้โรค rheumatism ได้13.ใบสดนำไปตีหรือฟาดเบา ๆ ตามตัวหรือบริเวณที่ถูกพิษคันจากต้นตำแยตัวเมีย จะช่วยทำให้หายจากอาการคันได้14.แพทย์แผนไทยบางพื้นที่จะใช้รากตำยาแมวกะเพียงเล็กน้อย นำมาต้มกับน้ำ 3-4 แก้วจนเดือน ใช้ดื่มก่อนอาหารมื้อไหนก็ได้วันละ 1 แก้ว เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงร่างกายให้แข็ง ช่วยกระจายเลือดลม แก้อาการปวดเมื่อย และช่วยทำให้สมรรถภาพทางเพศดีขึ้นอีกด้วยข้อควรระวัง : ห้ามรับประทานสมุนไพรชนิดนี้มากจนเกินขนาด เพราะจะทำให้อาเจียน ส่วนต้นและรากมีฤทธิ์ทำให้ช่องทางเดินอาหารเกิดอาการระคายเคืองได้ คนพื้นบ้านจึงนำมาต้มกินเพื่อเป็นยาขับเสมหะ









ที่มา : http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2008/03/J6467310/J6467310.html
         http://www.oknation.net/blog/ddstory/2011/04/29/entry-1
         http://www.m-culture.in.th
         http://www.samunpri.com/?p=5397
         http://www.petsabuy.com/article/
         http://www.vcharkarn.com/vcafe/47436

เรียบเรียง : เพจทาสแมว (cyclone_prince)

      

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

พอดีวันนี้ได้เข้าไปอ่านศุนย์รวมแมวทุกสายพันธุ์แล้วไปเจอโครงการดีๆ PurinaOneThailand ในการเปลี่ยนแปลงเจ้ามิ้วๆ ของเราได้ภายใน 30 วัน ทาสอย่างเราเองก็ไม่รอช้ารีบลงทะเบียนหวังจะให้เจ้าวอดก้า เจ้าวอดก้า แมวบ้ากามของเรามีสุขภาพดี เลยเอารายละเอียดของโครงการมาให้เพื่อนๆ ทาสแมวได้อ่านและร่วมสนุกกัน (ไม่ได้โฆษณาให้  PurinaOneThailand  แต่อย่างใด แค่อยากให้ร่วมสนุกกันนะครับ)




รายละเอียดของโครางการรอบที่แล้ว
ท้าพิสูจน์! แมวสุขภาพดีเปลี่ยนแปลงได้จริงใน 30 วัน
สำหรับคนรักแมว คงไม่มีใครไม่รู้จักกิจกรรมดีๆ อย่าง Purina ONE 30 Day Challenge Season 3 ที่ท้าพิสูจน์แมวสุขภาพดีเปลี่ยนแปลงได้จริงใน 30 วัน มาดูกันว่าหลังจากที่เข้าร่วมกิจกรรม น้องแมวผู้ชนะทั้ง 3 ตัว มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างไรบ้าง
ท้าพิสูจน์! แมวสุขภาพดีเปลี่ยนแปลงได้จริงใน 30 วัน “น้องเขากุย” น้องแมวผู้ชนะเลิศอันดับ 1
น้องแมวเปอร์เซียหน้าตาน่ารัก น่าหมั่นเขี้ยว ซึ่งก่อนเข้าร่วมกิจกรรมน้องเขากุยมีปัญหาเกี่ยวกับขนที่หยาบและมักจะพันกันเป็นก้อน เวลาหวีหรือลูบจะไม่นุ่มลื่นและพบกระจุกขนเป็นแห่งๆ
“เมื่อเขากุยได้ทาน Purina ONE เป็นประจำ 30 วัน ทำให้พบว่าเส้นขนของเขากุยนุ่มลื่นขึ้นมาก เมื่อลองสัมผัสเราก็รับรู้ได้เลยว่าขนของเค้าเงางามและสุขภาพดีขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ต่อไปคุณแม่จะให้แมวตัวอื่นๆ ในบ้านเปลี่ยนมาทาน Purina ONE บ้าง เพื่อให้น้องแมวได้มีสุขภาพแข็งแรงกันทั้งบ้านค่ะ” คุณสุพรรณิกา แสนสมบัติ คุณแม่ของน้องเขากุยกล่าวถึงความประทับใจ
ท้าพิสูจน์! แมวสุขภาพดีเปลี่ยนแปลงได้จริงใน 30 วัน  “น้องเนโกะ” ผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1
  ก่อนเข้าร่วมกิจกรรมน้องเนโกะชอบหม่ำแต่ข้าวคลุกปลาต้มและไก่ต้ม จึงทำให้ขนของเนโกะแห้งหยาบ ไม่เงางาม มาดูกันว่า เมื่อได้ลองทาน Purina ONE อย่างจริงจังทุกมื้อ น้องเนโกะจะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง 
“ครั้งแรกที่แกะซองอาหารแมว Purina ONE น้องเนโกะก็เดินตรงมาหาทันที ซึ่งหลังจาก 30 วัน สังเกตได้ว่าน้องเนโกะมีดวงตาเป็นประกาย ขนนุ่มสวย และเห็นได้ชัดว่าผิวหนังมีสุขภาพดีขึ้น เพราะไม่มีขุยผิวหนังหรือรังแค หลุดร่อนมากับแปรงเหมือนเมื่อก่อน” คุณธณธร ทาคำฟู – เจ้าของน้องเนโกะ

“น้องไต้ฝุ่น” ผู้ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 
ท้าพิสูจน์! แมวสุขภาพดีเปลี่ยนแปลงได้จริงใน 30 วัน น้องไต้ฝุ่นมีรูปร่างจ้ำม่ำและมีนิสัยซุกซน ซึ่งน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก ทำให้น้องไต้ฝุ่นค่อนข้างมีอุปสรรคในการวิ่งเล่นค่ะ
“น้องไต้ฝุ่นเคยอวบระยะสุดท้าย มาตอนนี้น้องไต้ฝุ่นคล่องแคล่วขึ้น วิ่งเล่นได้รวดเร็วกว่าเดิมและไม่เหนื่อยง่าย ถือว่าเป็น 30 วันที่คุ้มค่าและประทับใจมากค่ะ ที่ได้เห็นแมวที่เรารักมีความสุข ร่าเริงแจ่มใส และมีสุขภาพที่ดี” คุณภานุมาศ ขาวดี – เจ้าของน้องไต้ฝุ่น







ท้าพิสูจน์! แมวสุขภาพดีเปลี่ยนแปลงได้จริงใน 30 วัน
ไม่ใช่แค่น้องแมวผู้ชนะ 3 ตัวนี้เท่านั้นนะคะที่แข็งแรงขึ้น เพราะไม่ว่าน้องแมวไหนๆ ก็มีสุขภาพดีจนคุณสังเกตได้เช่นกัน พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองในโครงการ Purina ONE 30 Day Challenge ที่ www.facebook.com/PurinaOneThailand รับทันที! อาหารแมว เพียวริน่า วัน ขนาด 100 กรัม และสิทธิพิเศษมากมายสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนทุกคน


ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> www.facebook.com/PurinaOneThailand 

ที่มา : http://www.catthailand.com/catnews.asp?GID=1199
เรียบเรียง : cyclone_prince (เพจทาสแมว)

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เคยสงสัยไหมว่าเลี้ยงแมวยังไงให้อ้วน ผมก็เป็นคนนึงที่เลี้ยงแมวแล้วไม่อ้วน นอกจากต้องทำหมันแมวอันเป็นที่รัก เริ่มจากการสอบถามคนที่เลี้ยงแมวด้วยกันว่าทำยังไง ต้องให้กินอาหารอะไร ต้องเสริมวิตตามินอะไร ต้องกินขนมอะไร




เริ่มจากอาหารที่ใครๆ ก็บอกว่านี่คือเกรดพรีเมี่ยม คือ รอยัลคานิน ไอ้เราก็หามาให้ กินจนจะล่มจมเลยทีเดียว (55555 แมว 4 ตัวช่างเปลืองอะไรเยี่ยงนี้) แต่ก็เพื่อเจ้าเหมียวอันเป็นที่รัก ก็ต้องจัดการ


สำหรับผมเองให้เจ้าเหมียวกินสองสูตรนี้ เพราะมีทั้งแมวเด็ก และแมวโต ไม่พอ ยังไม่พอ ยังมีเสริมอีก ผสมกับตัวนี้ที่มีคนบอกมาว่าดี maxima


ยังไม่หมด เอาเจ้า Purina ONE สูตรนี้ มาให้เจ้าวอดก้ากิน บำรุงเข้าไป เผื่อมันจะกลับมาอ้วนบ้าน


มาดูอาหารเปียกกันบ้าง บำรุงเข้าไปอีก สลับกัยอาหารเม็ด(อาหารเม็ดนี่เทให้กินทั้งวันทั้งคืน) ตัวแรกเลยให้กินตั้งแต่เด็กๆ จนโต whiskas ทุกสูตร มันชอบกันหมด

 มาดูตัวต่อไปเลยดีกว่า อาหารกระป๋องแบบเปือย รสทูน่ากับไก่ฉีก มันก็ชอบกันมากมาย


ต่อมาด้วย Nekko อาหารอีกประเภทที่เหล่าเหมียวชอบกิน


                     
ปัจจุบันใครบอกอะไรดีซื้อมาให้กินหมด ทั้งอาหาร ขนม และวิตามิน ไว้เดียวจะมาอัพเดทให้อ่านกันใหม่นะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบอกเลยว่า อาหารที่เจ้าเหมียวกินไม่ได้ให้มันกินยี่ห้อเดียวตลอด ต่อให้รักเจ้าเหมียวมากแค่ไหน ก็ต้องดูเงินในกระเป๋าด้วย ผสมกันระหว่างอาหารเกรดพรีเมี่ยม กับ เกรดธรรมดา


เรียบเรียง : cyclone-prince(เพจทาสแมว)

วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สืบเนื่องจากเจ้าหเมียวของกระผม ชอบคาบลูกหนี เพราะอะไรไม่รู้ ทาสอย่างผมก็อยู่นิ่งไม่ได้ด้วยซิ หาข้อมูลในเวว็บทันที เลยมาเจอเว็บนึงที่บอกถึงพฤติกรรมของเจ้าเหมียว เลยเอามาเขียนลงบล๊อคซะเลย



 การเลี้ยงลูกแมวและการคาบลูก
            แม่แมวส่วนใหญ่นั้นจะห่วงลูกและคอยดูแลป้องกันอันตรายไม่ให้เกิดกับลูกน้อย เมื่อลูกแมวเดินสำรวจออกห่างไกลจากระยะที่อยู่ของรังมากเกินไป แม่แมวจะคาบลูกกลับมาที่รัง หรือเมื่อมีอะไรมารบกวนในพื้นที่บริเวณรัง แม่แมวจะคาบลูกแมวย้ายหนีไปยังจดที่ปลอดภัย สำรับเจ้าเหมียวของทาสนั้นนับเป็นคุณแม่มือใหม่ที่เก่งเลยทีเดียว ที่เจ้าเหมียวเลี้ยงดูเองได้ดีมากๆ ตั้งแต่ตอนคลอด ให้นม จนดุแลลูกๆ ซึ่งทำให้ทาสอย่างกระผมหมดห่วงได้เลยเวลา ออกมาทำงาน

 การส่งเสียงของแมว
            เสียงร้องของแมวนั้นอาจจะเป็นสิ่งที่ทุกคนคุ้นเคยและเป็นเอกลักษณ์ของเขาเลยก็ว่าได้ อาจจะเกิดได้ในหลายกรณี เช่นลูกแมวที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ แมวไม่มีความสุข ไม่พอใจ หรืออาจจะร้องหาคู่ แต่หากเราลองตั้งใจสังเกต แมวอย่างถี่ถ้วนแล้วอาจจะพบลักษณะเด่นอันเป็นเอกลักษณ์ว่าแมวแต่ล่ะตัว  และแมวแต่ละตัวเองที่แตกต่างกัน และจากที่ทาสเลี้ยงแมวไทย แมวเปอร์เซียร์ และแมวสก๊อตติส โฟล์ด เจ้าแมวไทยอย่างขามณีนี่ล่ะที่แลาดที่สุด แมวขาวมณีมีเสียงร้องที่ดังใหญ่ ก้องกังวานมากกว่าแมวไทยสายพันธุ์อื่นเนื่องมาจากแมวที่มีตาสีฟ้านั้นมักจะหูหนวก แต่แมวของทาสนั้นไม่ได้มีสีฟ้า มีสีเหลืองอัมพัน แล้วก้ไม่ค่อยร้อง อาจเป็นเพราะตอนเด็กถูกเลี้ยงตัวเดียวเลยไม่ค่อยส่งเสียง

 การทำเสียงแหลม
            เมื่อบางครั้งแมวตกอยู่ในสภาพที่เครียดจัด เขาจะแสดงความโกรธโดยการส่งเสียงแหลมๆ ออกมาถี่ๆ เพื่อแสดงการป้องกันตัว แต่ถ้าทำเสียงร้องสูงสลับต่ำก็เพื่อเป็นการแสดงถึงการจับคู่กัน หากมีการร้องเบาๆ นั่นหมายถึงเขาสนใจที่จะสนทนาอย่างเป็นกันเองกับเรา

 ความเฉลียวฉลาด
            แมวไทยนั้นจัดได้ว่าเป็นแมวที่มีความฉลาดมากที่สุด มากกว่าบรรดาแมวสายพันธุ์อื่นๆ สามารถเรียนรู้สิ่งต่างๆ และจดจำอะไรได้รวดเร็วกว่าแมวสายพันธุ์อื่น จากประสบการณ์ส่วนตัวของทาสอย่างกระผมเอง แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาเรียกชื่อแล้วเจ้าแมวของทาสทุกตัวไม่วิ่งมาหาเลย ต้องชี้หน้าไปหาเจ้าตัวไหนที่ทาสอยากให้มาหา มันก็จะวิ่งมา


 การปีนป่าย
แมวนั้นรักการปีนป่ายเป็นชีวิตจิตใจ ชอบสำรวจและเรียนรู้สิ่งใหม่ ลูกแมวจะเรียนรู้ทักษะการปีนป่ายโดยการลองปีนแม้ว่าจะถูกหรือผิดก็ตาม ทาสประสบการณ์ของทาสอีกเช่นเคย แมวของทาสชอบปีนป่ายทุกตัว ยกเว้นเปอร์เซีย ไม่ค่อยชอบสักเท่าไร
            
            และนี่คือพฤติกรรมของแมวเบื้องต้นที่ตรงกับแมวที่ทาสเลี้ยง ทาสคนอื่นๆ หมั่นสังเกต พฤติกรรมของเจ้าเหมียว ของเราแล้วจะทำให้เราเข้าใจเจ้าเหมียวเพิ่มมากขึ้น

         



ที่มา : http://pet.kapook.com/view39945.html
เรียบเรียง : cyclone_prince (เพจทาสแมว)

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

"คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น" หลายๆ คนคงเคยได้ยินคำนี้ ทุกวันที่ 1 และ 16 ของทุก ๆ เดือน น่าจะมีการลุ้นโชคกัน และวันนี้เองก็ได้ให้คำปรึกษา ทานแมวท่านนึงเดี่ยวกับการทำคลอดแมวและการดูแมวคลอด งั้นมาพูดถึงเรื่องโชค ลาภ กับ แมวกัน 



ตามความเชื่อโบราณ กล่าวว่า ถ้าหากแมวคลอด แล้วไม่กินรกของมันเอง ให้คนที่เป็นเจ้าของแมวเก็บรกตากแห้ง แล้วบูชา ซึ่งจะนำภาโชค ลาภ การค้าขายจะเจริญ รุ่งเรือง ต้องบอกว่านี่คือความเชื่อส่วนบุคคล ใครจะเชื่อก้ใคร่เชื่อ ใครไม่เชื่อก็ไปม่เป็นไร แต่ก็ได้มีการพิสูจน์มาแล้วสำหรับ ทาสแมวทั้งหลาย
ว่าสิ่งที่โบราณท่านกล่าวนั้นเป็นจริง

มาดูวิธีการจัดการรกแมวกัน
ก่อนอื่น ให้นำรกแมวที่แม่แมวไม่กิน นำมาคลุกหรือพอกกับขมิ้น เพื่อดับกลิ่น จากนั้นหาวิธีที่จะทำให้รกแมวนี้มีรูปร่างคล้ายกับเป็นถุง ซึ่งคนสมัยโบราณท่านถือว่า รกแมวเป็น “ถุงเงินถุงทอง” หรือ “ถุงเงินแห่ง โชคลาภ” (ความเชื่อส่วนบุคคล) ดังนั้นระวังอย่าให้ถุงของรกแมวขาด และห้ามนำไปตัดแบ่ง เพราะถ้านำไปตัดหรือทำให้รกแมวขาด ก็เท่ากับว่าทำให้ถุงขาดแล้ว จะเก็บเงินเก็บทอง เก็บโชคเก็บลาภไดไม่อยู่ เพราะ “ถุงรั่ว” นั่นเอง วิธีที่จะทำให้เป็นถุงจึงแตกต่างกันออกไป
ขั้นตอนต่อมา นำรกแมวมาตากแดด บ้างก็ 7 วัน บ้างก็ 9 วัน โดยหลังจากผ่านไปประมาณ 2-3 วัน ให้นำเอาสิ่งที่ใส่เข้าไปในรกแมว ออกมา จากนั้นจึงนำรกแมวไปตากแดดต่อจนแห้งสนิทดี ในขณะที่นำรกแมว มาตากแดด ระวังแมวจะมาคาบไปด้วย ระวังมด และสิ่งที่ต้องระวัง ให้มากที่สุดคือ ระวังแมลงวันมาไข่ เพราะจะทำให้รกแมวเน่าได้

ขั้นตอนสุดท้ายคือ นำไปให้เกจิอาจารย์ทำพิธีปลุกเสก ตั้งจิตอธิษฐาน ลงอักขระที่รกแมว ซึ่งแต่ละสถานที่จะต่างกันออกไป ตามแบบฉบับของ เกจิอาจารย์ท่านนั้นๆ แต่พิธีกรรมหนึ่งที่ต้องมี คือการปิดทองคำเปลวที่รกแมว จากนั้นก็จะนำมาบูชากันต่อไปตามลำดับ ส่วนการบูชา ก็จะมีทั่งการนำขึ้นหิ้ง โดยการนำรกแมวมาวางไว้บนผ้าสีแดง จากนั้นนำมาวางไว้บนพานสีเงิน หรือสีทองอีกที หาเศษสตางค์ หาเครื่องประดับ มาใส่รวมอยู่ในพานด้วย

เวลาไหว้ จุดธูป 9 ดอก ดอกไม้ขาว 9 ดอก อธิษฐานขอ.........ตามความปรารถนา 9. หมั่นทำบุญ ตักบาตร สวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ แล้วอุทิศส่วนกุศลให้แก่แมว และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลรักษารกแมว เพื่อให้ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น รกแมวถือว่าเป็นของดี เป็นเมตตามหานิยม ช่วยเหลือในทางค้าขายดีถ้ามีไว้จะดี 


เรียบเรียง : cyclone_prince(เพจทาสแมว)

Total Pageviews

Recent Comments

Popular Posts

Recent Posts

Text Widget