วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2559

แมวตาเพชรหรือเพชรตาแมว





สืบเนื่องจากมีแฟนเพจทาสแมว https://www.facebook.com/TheAngelCat/ สอบถามเข้ามาเกี่ยวกับตา
ของแมวที่เค้าเลี้ยงไว้ก่อนอื่นเลยเรามาทำความรู้จักกับว่าแมวตาเพชรหรือเพชรตาแมว กันก่อนตาม
หลักวิทยาศตร์แล้ว แมวตาเพชรหรือเพชรตาแมว เกิดจาก ความผิดปกติที่เลนส์ตาแมว หรือแมวจะเป็น
ต้อ จึงทำให้มีลักษณะของดวงตาที่ขุ่นมัวและมีประกายออกมา ดังนั้นคนที่เป็นเจ้าของควรรีบพาไปพบ
สัตว์แพทย์เพื่อรักษา เพราะถ้าปล่อยไว้นาน ดวงตาจะบอดไม่สามารถมองเห็นได้ อาจทำให้แมวเกิด
อุบัติเหตุ หาอาหารกินไม่ได้ หากปล่อยไว้อาจมีการอักเสบ ลุกลาม เจ็บปวดมาก ลักษณะของดวงตาที่
พบนี้อาจจะมีสาเหตุมาจากอุบัติที่เกิดขึ้นกับแมวด้วยเช่นกัน บางตัวหลังจากที่แมวดวงตาเป็นต้อ
แล้วอาจจะไม่มีความเจ็บปวดแต่จะทำให้มองไม่เห็น เหมือนกับคนเราที่เวลาเป็นต้อ จะทำให้การมอง
หรือการอ่าน มีปัญหา และเมื่อแมวตัวดังกล่าวได้ตายลง ดวงตาข้างที่เป็นต้อก็จะแข็งขึ้นราวกับก้อน
หิน(บางตัว) แต่จะมีความสวยงาม แวววาว ราวกับเพชร ดังที่เรียกว่า แมวตาเพชร หรือ เพชรตาแมว


หลังจากที่เรามารู้ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว แต่เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าไทยเรามีความเชื่อเรื่องแมวตา
เพชรหรือ เพชรตาแม
ว มานานแล้ว วันนี้ผมเลยเอาลักษณะความเชื่อของเรื่องนี้มาพูดกัน
(ไม่ได้บอกให้เชื่อนะครับขึ้นรอยู่กับวิจาณญาณของบุคคล)

ตั้งแต่โบราณแล้วที่ปู่ย่าตายาย บรรพบุรุษของเรามีความเชื่อในตำนานของแมวตาเพชรหรือ
เพชรตาแมว ถึงความลี้ลับ ถึงความขลัง ถึงความเป็นสิริมงคลที่จะช่วยคุ้มครองภัยอันตรายต่างๆ
ความเจริญรุ่งเรือง หีรือโชคลาภ มาสู่ความเป็นเจ้าของ ซึ่งเราก็จะเห็นข่าวออกตามทีวี ตามสื่อต่าง ๆ
ออกมาเป็นระยะ ๆ ว่าพบแมวตาเพชร หรือ เพชรตาแมว

โดยกล่าวกันว่า เมื่อครบรอบ 100 ปี ถึง 1,000 ปี จะมีเทพจากสรวงสรรค์ลงมาจุติยังโลกมนุษย์ 1 องค์
โดยเทพดังกล่าวจะมาเกิดเป็นแมว และได้นำแก้วมณีสารพัดนึก ซึ่งเป็นของวิเศษประจำตัวลงที่มาโลก
มนุษย์ เพื่อชดใช้กรรมที่ยังเหลืออยู่ และก่อนที่เทพองค์ดังกล่าวจะละสังขารแมว ท่านจะประทานแก้ว
วิเศษที่รู้จักกันในนาม "เพชรตาแมว" ให้แก่ผู้ที่มีพระคุณ ที่เลี้ยงดูมาจนถึงวาระที่ได้ชดใช้กรรมหมดสิ้น
แล้ว โดยก่อนจากไปท่านจะเข้ามาคลอเคลียกับผู้ที่เป็นเจ้าของเหมือนเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย และ
ทิ้งเพชรตาแมวของตนไว้ให้ ก่อนจะกลับขึ้นไปบำเพ็ญตบะบนสรวงสวรรค์ดังเดิม
(ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/75375)


(เครดิตภาพโดยเว็บโพสจัง)

โดยเพชรตาแมว มักมีลักษณะ ดังนี้ 

          1. เพชรตาแมวชนิดหินใส มีลักษณะใสปนขุ่น ขนาดเท่าลูกแก้ว ในความใสจะเหมือนมีเสี้ยนไผ่อยู่
ในตา หรือม่านตา  เมื่อส่องด้วยกล้องขยายจะเห็นเป็นรังผึ้งขนาดเล็ก และมีเส้นเลือดขนาดเล็กด้วย ซึ่ง
เพชรตาแมวประเภทนี้มักมีสีฟ้าน้ำทะเล สีเหลือง สีเขียวอมฟ้า หรือสีม่วงอมชมพู

          2. เพชรตาแมวชนิดใสเป็นแก้ว เพชรตาแมวชนิดนี้จะมีลักษณะเหมือนดวงตาแมวขณะที่ยังมีชีวิต
อยู่ ในความใสจะไม่มีสีขาวขุ่นมาเจือปน มีมิติซับซ้อนและไม่สามารถทำเทียมเลียนแบบได้ เนื่องจาก
เนื้อจะใสบริสุทธิ์ และมีความแวววาวมาก

          นอกจากนี้ ยังเชื่อกันว่า แมวตาเพชร หรือ เพชรตาแมว มีความเกี่ยวพันกับ แมวสีสวาด ซึ่งถูกเรียก
ว่า แมวตาเพชร เนื่องจากตอนที่มีชีวิตอยู่ ดวงตาทั้ง 2 ข้างของแมวสีสวาด จะมีลักษณะใสแววาวราวกับ
เพชร และยังมีเรื่องเล่าอีกว่า ตอนที่แมวตาเพชรยังมีชีวิตอยู่ เมื่อมองไปที่เหยื่อนาน ๆ เหยื่อประเภท
จิ้งจก นก และหนู จะแพ้นัยน์ตาแมวแล้วตกมาเป็นอาหารแมว โดยที่แมวไม่ต้องทำอะไร ซึ่งหลังจากตาย
ไป แม้ร่างกายจะเน่าเปื่อย แต่เพชรตาแมวนั้น จะใสวาวยิ่งกว่าเพชร จึงทำให้เพชรตาแมวที่ได้จากแมวสี
สวาดมีสนนราคามหาศาล เพราะหาได้ยากกว่าเพชรตาแมวทั่ว ๆ ไป

          นอกจากนี้ มีคำกล่าวอีกว่า ผู้ที่ได้ครอบครองเพชรตาแมว จะต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนามาตั้งแต่ชาติ
ปางก่อน จึงทำให้สัตว์เทพตามมารับใช้ ซึ่งอานุภาพของเพชรตาแมว มีคุณวิเศษดั่งแก้วสารพัดนึก หาก
ผู้ครอบครองได้มาอย่างถูกต้อง และหมั่นสร้างบุญบารมี ทำคุณงามความดี ก็จะทำให้เจ้าของเพชรตา
แมวนั้น พบแต่ความเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง และแคล้วคลาดจากอันตราย แต่หากผู้ใด
ครอบครองเพชรตาแมวด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง และทำแต่ความชั่ว บุคคลนั้นอาจมีอันเป็นไปต่าง ๆ นานาได้

         ทั้งนี้ ปัจจุบัน เพชรตาแมว ยังคงเป็นวัตถุมงคล ที่บุคคลจำนวนมากอยากได้มาครอบครอง
แต่เนื่องจากเป็นของหายาก และมีโอกาสเกิดขึ้นได้ราว 1 ในล้าน ดังนั้นสนนราคาของเพชรตาแมวจึง
อยู่ในหลักสิบล้านบาทขึ้นไป โดยเฉพาะเพชรตาแมวที่มีลักษณะดี หรือเป็นของเก่าแก่อายุกว่าร้อยปี
อย่างไรก็ดี เพชรตาแมวที่จำหน่ายต้องผ่านการรับรองจากสถาบันต่าง ๆ ที่น่าเชื่อถือ เช่น สถาบันวิจัย
และพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือมีใบรับรองเป็น
วัตถุธรรมชาติจากกรมทรัพยากรธรณี เป็นต้น
(ที่มา : http://hilight.kapook.com/view/75375)






วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2559

สวัสดีครับ หลังจากที่ได้ทรายแมวมาใหม่ตัวนึง  ก็เห็นว่ามันดีจริงๆ เลยเอา รีวิวมาฝาก เพื่อนทาสแมวให้
ได้ใช้ของดี ย้ำนิดนึงนะครับ ผมไม่ได้ขาย ใช้ดีเลยบอกต่อ ถ้าหากสนใจ เดียวผมทิ้งเว็บที่สั่งซื้อ 
หรือเฟสบุ๊ค เอาไว้ให้ ตอนท้าย สนใจ ยังไงก็ลองไปคุยเองนะครับ มีสองสีนะครับที่ผมเทส คือสีฟ้า กับสีทอง แต่วันนี้ผมจะรีวิวสีทองก่อน 



สืบเนื่องผมเลี้ยงแมวทั้งหมด 9 ตัว ในห้องเช่า ซึ่งถ้าใครเลี้ยงแมวจะทราบดีว่า แมวจะฉี่และอึด ตลอดวัน
และจะมีกลิ่น โดยเฉพาะห้องแอร์ ผมก็เป็นคนนึงที่เจอปัญหานั้นเช่นเดียวกัน ผมก็ใช้ทรายเม็ดปกติๆ
สรรหาไปเรื่อยๆ ถูกบ้างแพงบ้าง ก็มาแนะนำกันไป ถ้าใช้ดี จนได้เจอเจ้าทราบแมวที่ชื่ว่า Charcoal Sand รุ่น Premium (สีทอง) Karbon Clean ตัวผมเองนั้นก็เลี้ยงแมวมาเป็นเวลา  4 ปีกว่าๆ เลี้ยงในระบบปิด 



มาดูคุณสมบัติกันก่อนนะครับ ผมก็หาข้อมูลจากเว็บไซต์นะครับ
คุณสมบัติที่กล่าวไว้ของทรายตัวนี้คือ ฝุ่นไม่มี และผสมความสามารถในการดูดกลิ่นเข้ามาเป็นพระเอก ของรุ่น ทรายแมวดูดกลิ่น ไร้ฝุ่น Charcoal Sand Ultra Premium 

- นำเข้าจากอเมริกา
เนื้อทรายนุ่มมาก 
- การจับตัวเป็นก้อนรวดเร็ว และไม่แตกเป็นผงง่าย
- ไม่เละเป็นโคลน
- ทรายไม่เกาะติดกระบะทราย
- ฝุ่นน้อย 99.9%


เอาล่ะเรามาเริ่มทดลองกัน โดยให้น้องแมวใช้จริง ทดลองจริง ซึ่งข้อแรก เจ้าแมวน้อยไม่มีปัญหากับทรายใหม่ สามารถใช้ได้ตามปกติ










1. ก่อนหน้านี้ที่ใช้ทรายแมวธรรมดา ปกติ เปิดแอร์นอนหรือตอนเช้าตื่นมาจะได้กลิ่น แต่หลังจากที่ใช้
Charcoal Sand รุ่น Premium บอกเลยไม่มีกลิ่น หรือกลิ่นน้อยมาก ต้องเดินไปดูถึงรู้ว่าเจ้าเหมียว
ฉี่ไว้ หรือือึไว้ แบบถึงกับทึ่งในคุณสมบัติเลย รู้สึกชอบมากตามที่ทางร้านรับประกัน😁
2. ฝุ่นน้อยมากๆ แทบจะไม่มีเลย 
3. ราคาก็สองร้อยกว่าบาท ต่อถุงขนาด 5ลิตร(ตามโปรโมรชั่นของร้านค้า) เทียบราคาต่อน้ำหนักก็ถือว่าสูงกว่ายี่ห้อเดิม แต่ก็แลกกับกลิ่น และฝุ่น 
4. 1 ถุงทางร้านบอกว่าใช้ได้นานแต่เดียวผมจะพิสูจน์ ตอนนี้เอาเรื่องกลิ่นกับการดูดซับมารีวิวก่อน
เผื่อทาสแมวคนไหนสนใจจะซื้อมาเทสก่อน
5. สนใจก็ไปสั่งซื้อได้ที่ https://www.facebook.com/karbonclean/ 
  

สามารถติดตามรีวิว และความน่ารักของน้องแมว ได้ที่




วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559




กลับมาอีกครั้ง กับการไปให้อาหารแมวจร ที่สวนลุมพินี ครั้งที่2
หลายคนถามว่าทำไมต้องไปให้ 

ก็ไม่มีอะไรมาก แค่อยากให้ครับ 
สงสาร ความฝันอย่างนึงที่อยาก
ทำคือทำคาเฟ่แมวและมูลนิธิเพื่
น้องแมว แรงบันดาลใจก็ได้มาจาก
เกาะแมวที่ปุ่น ละคือเหตุผลที่
อยากไปเกาะแมวที่ญี่ปุ่น แต่ตอนนี้
ทำได้ได้คือบริจาคเงินช่วยเหลือ
น้องแมวที่บาดเจ็บตามโครงการ
ต่างๆ และซื้ออาหารเม็ดมาให้แมว
จรที่สวนลุมพินี ถึงมันไม่ใช่เกรด
พรีเมี่ยม แต่มันคงทำให้เจ้าแมว
น้อยคลายหิว ประทังชีวิต ได้อีกมื้อ แบ่งเงินบางส่วนที่ขายของ ทำธุรกิจได้มาซื้ออาหารบริจาค นี่เป็น
ครั้งที่สอง มารอบนี้ หายไปเยอะเลย ไว้มีโอกาสจะมาให้ใหม่อีกนะ









 

 






















วันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2559


 ห่างหายกันไปนานเลย สำหรับการ Update Blog วันนี้เลยมา update trip ที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น
ไปตามรอยเจ้าทาม่ะ และนิทาม่ะ แมวนายสถานีตัวแรกของโลกและตัวที่สองของโลกกัน






 









Total Pageviews

Recent Comments

Popular Posts

Recent Posts

Text Widget